
นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ![]()
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568
เวลา 09.00 น.
นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ในพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายดำรงค์ศักดิ์ นาคีสังข์ นายอำเภอประโคนชัย พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลตะโกพิ และกำนันตำบลประทัดบุ ให้การต้อนรับ
นางรัชนี สาระวิถี พัฒนาการจังหวัดบุรีรัมย์ มอบหมายให้ นายอัศวณัฏฐ์ ชินพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงาน นักวิชาการพัฒนาชุมชน จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมลงพื้นที่ นางกอบเกื้อ เหล่าทวี พัฒนาการอำเภอประโคนชัย รายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา/อุปสรรค พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และภารกิจสำคัญกรมการพัฒนาชุมชน แก่เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ดังนี้
การขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา”
+ให้เร่งดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องตามผลการตรวจประเมินศักยภาพของศูนย์เรียนรู้ให้ครบถ้วน
+ ส่งเสริมกิจกรรม “หิ้วปิ่นโตเอามื้อสามัคคี” ในแปลง C เพื่อยกระดับเป็นแปลง B
+ หิ้วปิ่นโตเอามือสามัคคี เป็น การแบ่งปัน ได้แก่ แบ่งปันแรงงาน (เอาแรง) แบ่งปันอาหาร (นำอาหารมาทานร่วมกัน) แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ (ธนาคารเมล็ดพันธุ์/ศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์) และการแบ่งปันความรู้ (ครูพาทำ)
+ ดำเนินกิจกรรมพัฒนาพื้นที่ตามแนวทาง 5 P ปรับปรุงฐานเรียนรู้ จัดทำบัญชีครัวเรือน และสมุดเยี่ยมให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ต่อยอดเป็นสินค้า OTOP
+ จัดทำสถิติการออกตลาดจำหน่ายของครัวเรือนโคก หนอง นา
การดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
1) ประชาสัมพันธ์การเสนอโครงการกู้ยืมเงินกองทุนฯ
2) การพิจารณาโครงการกู้ยืมเงิน ให้พิจารณาวินัยทางการเงินของผู้กู้โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมพิจารณา
3) กำกับการบริหารจัดการหนี้ค้างชำระให้อยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 5
โครงการคนละครึ่งพลัส ขอให้อำเภอ เร่งเชิญชวนผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP สมัครร่วมโครงการ โดยพัฒนากร สนับสนุน และอำนวยความสะดวก แก่กลุ่ม OTOP ในการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ร้อยละ 75 ของจำนวนกลุ่ม OTOP
การจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ขอให้จัดเก็บให้ทันตามห้วงระยะเวลา และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์
โครงการ กข.คจ. ขอให้กำกับติดตามอย่างใกล้ชิด สม่ำเสมอ รายงานสถานะการเงิน ภาวะหนี้สิน ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ปีละ 2 ครั้ง และจัดทำรายงานการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการ กข.คจ. เสนอนายอำเภอ ทราบทุกครั้ง ให้ผู้ใหญ่บ้าน ประธานโครงการ กข.คจ. รายงานสถานะการเงิน เป็นลายลักษณ์อักษรให้ นายอำเภอทราบ
กองทุนแม่ของแผ่นดิน ขอให้ขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ในหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน หมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน และหมู่บ้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ติดตามเยี่ยมให้กำลังใจและให้แนวทางการปฏิบัติงานอย่างไรให้มีความสุข แก่พัฒนากร รุ่นที่ 127 131 และ 132
การส่งเสริมบทบาทพัฒนากร โดยให้ความสำคัญกับพัฒนากร ว่า “พัฒนากร” คือ ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งพัฒนากรจะต้องมีองค์ความรู้ในงานพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่เป็นประจำ ยึดมั่นในภารกิจและปรัชญาของการพัฒนาชุมชน มุ่งสร้างความเข้มแข็งชุมชนตามกระบวนการขับเคลื่อนภารกิจ และพันธกิจของกรมฯ ร่วมกันสร้างผู้นำชุมชน องค์กร เครือข่าย ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน ด้วยหลักปรัชญาพัฒนาชุมชน ใช้หลักการมีส่วนร่วมในการทำงาน ขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างสถาบันหลักของชาติ ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริสู่การปฏิบัติผ่านกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ภายใต้ภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข
และได้ติดตามการดำเนินงานกิจกรรมของ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอประโคนชัย ดังนี้
1) ติดตามและให้กำลังใจการขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์เรียนรู้ฯ “โคก หนอง นา”แปลงของนายคอด บัติประโคน หมู่ที่ 1 ตำบลตะโกตาพิ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
2) ติดตามและให้กำลังใจการขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์เรียนรู้ฯ “โคก หนอง นา”แปลงของนายณัฏฐวัชช์ บุญสวัสดิ์ หมู่ที่ 7 ตำบลตะโกตาพิ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
3) ติดตามและให้กำลังใจการขับเคลื่อนกิจกรรมศูนย์เรียนรู้ฯ “โคก หนอง นา”แปลงของนางเรียม นวลคนึง หมู่ที่ 11 ตำบลตะโกตาพิ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ผู้ตรวจราชการกรม ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่แปลงจะต้องมี 1) ป้ายโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 2)ป้ายศูนย์เรียนรู้ฯ 3) สมุดเยี่ยม 4) บัญชีครัวเรือน 5) ฐานเรียนรู้ ไม่น้อยกว่า 5 ฐาน และ6) ผลผลิตของแปลง พื้นที่ทุกแปลงจะต้องมีคนในชุมชนเข้ามาเรียนรู้ ใช้ประโยชน์ โดยมีเจ้าของแปลงเป็นครูพาทำ/วิทยากร และสร้างประโยชน์เกื้อกูลให้กับชุมชน เจ้าของแปลงจะต้องเกิดความคุ้มค่าต่อตนเอง ต่อครอบครัว และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปยังชุมชน
นอกจากนี้ ผู้ตรวจราชการกรมฯ ได้กล่าวขอบคุณนายดอน เกษาโร ประธานเครือข่ายโคก หนอง นา อำเภอประโคนชัย และเครือข่ายโคก หนอง นาอำเภอประโคนชัยทุกท่าน ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมโคก หนอง นา ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ ขอชื่นชมในความตั้งใจและความมุ่งมั่นของเจ้าของแปลง ที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “โคก หนอง นา” จนเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สร้างรายได้ให้กับครัวเรือน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชนอื่น ๆ ในพื้นที่ต่อไป